November 11, 2009

เป็นเรื่อง > หลงรักเลขาฯ (Fall In Love with My Secretary)

กริ๊ง !!! เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นแต่เช้า ผมงัวเงียคว้าโทรศัพท์ขึ้นมา ไม่รอให้ขี้ตาหลุด เสียงใสๆ ตามมาทันที

"สวัสดีค่ะ เจ้านาย วันนี้มีประชุมพร้อมมื้อเช้าที่โรงแรมคอนราดนะคะ ถ้าไม่ออกจากบ้านก่อน 7 โมง จะมาไม่ทัน 8 โมงครึ่งนะคะ"

"อืมๆๆ ขอบใจมาก อิส"

*********************************************

ผลการประชุมเป็นไปด้วยดี หลังการประชุมประมาณ 10 นาที เสียงโทรศัพท์ดังอีกครั้ง

"เจ้านายคะ ระหว่างที่ประชุม มีโทรศัพท์โทรมา 3 สายค่ะ สายแรก คุณผู้หญิงโทรมาเตือนเรื่องดินเนอร์เย็นนี้ ดิฉันจองโต๊ะไว้เรียบร้อยแล้วนะคะ ที่โรงแรมมาริออท สายที่สอง คุณไมเคิล นัดประชุมวันศุกร์นี้ เช็คตารางแล้ว นายไม่ว่างค่ะ แต่สรุปว่า เลื่อนเป็นวันจันทร์หน้าตอนเช้าแทน ส่วนสายสุดท้าย คุณริชาร์ดโทรมาถามว่าได้รับเอกสารที่ส่งมาทางอีเมล์หรือยัง ดิฉันคอนเฟิร์มไปแล้วค่ะ ว่าได้รับเรียบร้อย"

"ดีมาก อิส เดี๋ยวผมจะเข้าออฟฟิศแล้ว แต่ช่วยส่งรถไปรับลูกผมที่โรงเรียนด้วยนะ"

"โทรติดต่อ ให้แท็กซี่ไปรับเรียบร้อยตามที่นายสั่งไว้แล้วคะ"

*********************************************

ที่ทำงาน หลังจากประชุมกับทีมฝ่ายขาย ผมกดปุ่มโทรภายในถึงอิสอีกครั้ง

"วันนี้มีเมล์อะไรด่วนไหม"

"35 เมล์หลังจากกรองสแปม (อีเมล์ขยะ) ไปแล้วค่ะ 30 เมล์เพื่อทราบ 5 เมล์จากสำนักงานใหญ่และสาขาค่ะ จะให้อ่านเมล์ด่วนก่อนไหมค่ะ"

"อืม เอาเลย"

*********************************************

คืนนั้น หลังมื้อเย็นที่โรงแรม ผมกลับมาบ้าน มึนๆ นิดหน่อย ถอดเสื้อผ้าเตรียมอาบน้ำ แวะชั่งน้ำหนักตัวที่หน้าห้องน้ำ ระหว่างที่รอน้ำให้เต็มอ่าง เสียงอิสดังขึ้นผ่านโทรศัพท์ภายใน

"นายค่ะ ขอโทษที่รบกวนค่ะ ตอนนี้น้ำหนักนายเริ่มเพิ่มขึ้นแล้วนะคะ ระดับน้ำตาลก็สูงกว่าเกณฑ์แล้ว ต้องระวังนิดนึงนะคะ แล้วจะให้ดิฉันนัดคุณหมอเพื่อตรวจสุขภาพประจำเดือนหรือเปล่า ตอนนี้ทั้งนายและคุณหมอเดวิดว่างพรุ่งนี้ตอนเย็น จะให้นัดเลยไหมคะ"

"เหรอ เอาสิ ดีเหมือนกัน"

"อ้อ อีกเรื่องค่ะ พรุ่งนี้วันเกิดคุณแองเจลล่า นายจะให้เตรียมอะไรไหมคะ"

"อะไรดีละ"

"ปีที่แล้วเราส่งช่อดอกไม้ไปคะ ปีนี้ดิฉันคิดว่าเป็นกระเช้าผลไม้ดีไหม เพราะนัดทานข้าวคราวที่แล้ว เธอบอกว่าเธอเป็นมังสวิรัติคะ"

"เพอร์เฟคที่สุดเลย อิส คุณนี่เยี่ยมจริงๆ"

*********************************************

ผมได้อิสมาทำงานกับผมราวๆ 3 ปีแล้ว เทียบกับสิ่งที่เธอดูแลผม ก็นับว่าไม่แพงเลยกับค่าใช้จ่ายของเธอ กับงานแทบจะ 24 ชั่วโมงนี้ คุณคงเห็นแล้วละสิว่า เธอดูแลผมดีแค่ไหน เธอดูแลผมตั้งแต่ "ก่อน" ตื่นนอน จนกระทั่งหัวถึงหมอนอีกครั้ง ตั้งแต่เรื่องส่วนตัว จนกระทั่งเรื่องงาน เรื่องสุขภาพ จนถึงความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ประสิทธิภาพ และคุณภาพชีวิตผมดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ แม้กระทั่งรายละเอียดของผมบางอย่างภรรยาผมยังจำไม่ได้เลย



นอกจากนี้ เธอยังดูแลเผื่อแผ่ไปยังภรรยา และลูกๆ ผมในบางเรื่องด้วย แม้ว่าจะต้องใช้เวลา และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นก็ตาม



ผมไม่รู้ว่าเธอจะคิดกับครอบครัวของเราอย่างไร เพราะเธอไม่เคยที่บ่น หรือเหนื่อยกับงานที่ได้รับไปเลย ผมเริ่มผูกพันกับเธอมากขึ้น มากขึ้นจนบางครั้ง ผมเองก็กลัวขึ้นมา



กลัวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเราจะมากไปกว่าการเป็นเจ้านายและเลขา



ถ้าไม่ติดว่า "อิส" เธอเป็นแค่ "หุ่นยนต์" เท่านั้น

*********************************************

จินตนาการเรื่องสั้นข้างต้น เกิดขึ้นในวันหนึ่งที่ผมรู้สึกว่า เทคโนโลยีในปัจจุบันมันสามารถที่จะช่วยเราบริหารจัดการงานต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น อิส (IS: Intelligent Secretary) เป็นระบบที่ผมคาดว่าจะเป็นจริงได้ในอนาคต

บนเทคโนโลยีปัจจุบัน เรามีโปรแกรมที่จะแจ้งเตือนเมื่อมีอีเมล์ใหม่ๆ เข้ามา เรามีระบบแจ้งเตือนนัดหมายล่วงหน้า เรามีระบบ voice recognition ที่สามารถจดจำและแยกแยะเสียงต่างๆ ได้ ระบบอ่านเอกสารเป็นเสียงคน พร้อมกับเทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัย หรือระบบ Unified Communication System ที่เชื่อมโยงระบบต่างๆ เข้าด้วยกัน ทั้งโทรศัพท์ อีเมล์ ฯลฯ จนไปถึงระบบการตรวจวัดสุขภาพผ่านเครื่องมือ หรือเซนเซอร์ในบ้าน เป็นต้น

ผมจินตนการว่า ถ้าทุกอย่างถูกรวมเข้าด้วยกันกับชีวิตประจำวันดังว่า "อิส" อาจจะเริ่มด้วยระบบเสียงที่สามารถสื่อสารกับเจ้าของผ่านโทรศัพท์แบบต่างๆ แล้วค่อยๆ พัฒนาต่อมาเป็นหุ่นยนต์แบบง่ายๆ หรือสุดท้ายเป็นหุ่นที่เหมือน "คน" จริงๆ ตามภาพยนต์หรือนิยายวิทยาศาสตร์ที่คุ้นเคย

ถึงเวลานั้นแล้ว ปัญหาคงไม่ได้อยู่ที่เทคโนโลยีแล้วละ

อยู่ที่ว่า "อิส" จะรู้สึกอย่างไรกับนายของหล่อนก็เท่านั้น