June 15, 2010

มองมุมเหม่ง > เจาะเวลาหาอนาคต (Time Machine)

ก่อนที่จะไร้ค่า
ขอมอบปัญญาค่าสุดท้าย
จารึกไว้ตราบนาน
*************************

หลังจากการวางแผนที่จะย้ายที่อยู่เป็นการถาวร งานหนึ่งที่ต้องรีบทำ และผมต้องทำเอง คือการย้ายและจัดการ "หนังสือ" จำนวนมากที่เก็บสะสมไว้ ถ้าหากใครที่เป็นคนเชื้อชาติ "หนอน" อย่างผม ย่อมเข้าใจได้ว่าหนังสือต่างๆ ที่เก็บสะสมมานั้นมีค่าทั้งต่อกระเป๋าและต่อจิตใจมากแค่ไหน

ถ้าจะคิดกันอย่างหัวการค้า หนังสือเก่าๆ อย่างนี้ ก็จะมีคนกลุ่มนึงที่สนใจที่จะรับช่วงกันต่อ หรือจะขายผ่านร้านหนังสือเก่า ซึ่งราคาที่รับซื้อก็อาจจะไม่คุ้มกับค่ารถที่แบกไป แต่อย่าถามถึงราคาที่เขาจะขายต่อนะครับ จะเศร้าใจไปเปล่าๆ

ส่วนใหญ่หนังสือที่เข้ารอบโดนโล๊ะ มักจะเป็นพวกนิตยสารเก่าๆ หรือไม่ก็หนังสือวิชาการที่พ้นสมัยไปแล้ว
เมื่อตัดสินใจที่จะทิ้ง (ให้แม่บ้านเอาไปชั่งกิโลขาย) ผมมักจะหยิบหนังสือเหล่านี้มาพลิกๆ เพื่อที่จะร่ำลากันเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งกลายเป็นประเด็นที่จะชวนคุยกันวันนี้

หลังจากพลิกไปเรื่อยๆ ผมพบว่า หนังสือเหล่านี้ได้พาผมย้อนอดีตกลับไปยังช่วงหนึ่งของยุคสมัย ได้กระตุ้นให้คิดถึงช่วงชีวิตของเรา ณ จุดเวลานั้น กิจกรรมที่ได้ทำ คนที่อยู่ข้างเขียงและข้างเคียง

ได้เห็นแฟชั่น ขาเดฟ เสื้อสีสด ปกตั้ง ในรุ่นพ่อ ก่อนที่จะ "เรโทร" กลับมาในปัจจุบัน หรือใกล้กว่านั้น ผมทรงฟาร่า ฟูๆ กางเกงขาพองทรงบักกี้ และเสื้อผ้าแบรนด์ไทยชื่อฝรั่งๆ ที่ต้องใส่ทับเสื้อยืดข้างใน

ถ้าเกี่ยวกับบ้านและตกแต่ง ก็เห็นสไตล์การแต่งแบบหลุยส์ อลังการงานสร้าง เสาโรมัน ลายประตูอัลลอยอันซับซ้อน

หรือจะเป็นหนังสือเกี่ยวกับไอที เทคโนโลยี อ่านไปก็ขำไปกับการวิเคราะห์ถึงแนวโน้มเทคโนโลยีในอนาคต หลายเล่มยังไ่ม่มีใครพูดถึง "คลาวด์" หรือ "โซเชียลเน็ตเวิร์ค" แค่คำว่าอินเตอร์เน็ตก็เป็นอะไรที่ยากที่จะอธิบายแล้ว ยังไม่รวมถึง เนื้อหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่างๆ มือถือ ที่ไม่น่าเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นและเห็นอยู่ในปัจจุบัน

แม้ว่า หนังสือเหล่านี้กำลังจะโดนเปลี่ยนสภาพไปเป็นอย่างอื่นในไม่ช้า แต่อย่างน้อย มันก็ได้ทำหน้าที่ส่งผ่านความรู้ให้เราเป็นครั้งสุดท้าย แม้มิใช่โดยเนื้อหา แต่หนังสือเหล่านี้ก็กลายเป็นเอกสาร "ประวัติศาสตร์" เพื่อให้เราได้ทบทวนอดีต เข้าใจที่มาที่ไป และได้คิดเตรียมตัวสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตที่งดงาม

ขอคารวะให้กับทุกความตั้งใจในการสร้างสรรหนังสือครับ