June 10, 2011

มองมุมเหม่ง > ต้องรอให้ขาดก่อนหรือ?? (No Excuses)

หลังจากลืมไปว่าทุกวันพฤหัสฯ ต้องตามดูเจาะใจ เมื่อวานก็เปิดมาเจอโดยบังเอิญ (โชคดีๆๆ) เป็นเทปทอล์คโชว์ The Moment 2 - โดย พระมหาสมปอง (ไม่ต้องพูดถึง เทศน์ฮาๆ มีสาระ) และ Kyle Maynard (นักมวยปล้ำ, นักกีฬาอเมริกันฟุตบอล แต่เกิดมา มีแขนแค่ศอก มีขาแค่หัวเข่า ทำได้ไง -- ลองหาดูนะครับ มีเยอะมาก ตัวอย่าง http://www.youtube.com/watch?v=Kfu4k0iTZHs) หรือดูรูปที่ผมหามาเป็นตัวอย่างความน่าทึ่งละกันครับ

Kyle มาแชร์ประสบการณ์ที่สร้าง "พลัง" และกู้ "กำลังใจ" ให้เราได้มาก ว่าเขาทำได้อย่างไร ในการฝ่าฟันสิ่งต่างๆ ที่เรามองเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับเขานั้นไม่ ทำให้ต้องมองย้อนกลับมาดูตัวเองอีกครั้ง ว่าเรา "ลืม" หรือ "ยอมแพ้" กับความฝันของเราไปหรือยัง อย่างที่จั่วหัวไว้ No Excuses (อย่าแก้ตัวว่า...) หรือตามหนังสือที่ไปสืบค้นมาให้นะครับ

ในระหว่างที่ดูนั้น Kyle เล่าให้ฟังว่า ใครๆ ต่างเห็นใจและพร้อมที่จะช่วยเหลือเขา ซึ่งเป็นสิ่งดี แต่ก็อยู่บนพื้นฐานของความสงสารและเวทนา!!



*********************************************

ในแวบนั้น ผมนึกถึงคนที่ผม "รักและห่วงใย" ที่เราเต็มใจที่จะมอบความปรารถนาดีๆ ให้ ซึ่งบางครั้งเขาทำตัวงอแง ทำให้เราหงุดหงิดอารมณ์เสีย บานปลายกลายเป็นความผิดหวัง จนเราไม่อยากที่จะอินังขังขอบอะไรอีกต่อไป แต่ก็ถามตัวเองต่อว่า ถ้าเขาอยู่ในภาวะที่ต่างจากเรา พิการ ไม่มีแขน ไม่มีขา หรืออยู่ในช่วงสุดท้ายของชีวิต ทิฐิที่เกิดขึ้นนั้น ผมยังจะไม่สนใจ ปล่อยไปอย่างที่คิดไว้ตอนแรกหรือไม่

คำตอบก็คือ ไม่ ผมคงต้องพยายามเข้าใจ และเห็นใจเขามากขึ้น ขีดจำกัดความอดทนผมคงมากกว่าปกติ ซึ่งสิ่งที่คิดต่อมาก็คือ แล้วผมต้องรอให้คนที่ผมรักเหล่านี้ พิการ หรือ อยู่ในวาระสุดท้ายก่อนหรือ?? แล้วผมถึงจะเห็นใจ ถึงจะยกโทษให้กับการกระทำของเขา

นาทีนี้ ผมหันไปมองคนที่ผมรักอีกครั้ง คงไม่ต้องอธิบายหรือสะท้อนความโกรธ ความหงุดหงิดกลับไป แต่เพียงเพราะเขาเป็นคนที่ผมรักมากต่างหาก ผมไม่ต้องรอเวลาเพื่อที่จะบอกรักพวกเขาอีกครั้ง

..เพราะมันอาจจะสายเกินไป..