March 20, 2011

มองมุมเหม่ง > ระหว่างทางกับการขาย..(On The Road 2)

ขายได้หรือขายเก่ง
ต้องเพ่งไปที่ผลกำไร
ไม่ใช่ปริมาณ
**************************

ระหว่างที่คิดถึงเรื่องแบรนด์ไทยกับฝรั่งๆ เพลินๆ นั้น (มองมุมเหม่ง > ระหว่างทางกับการสร้างแบรนด์..(On The Road 1)) เด็กเสริฟเดินมาบอกว่า กระดูกหมูอ่อนหมด กำลังต้มอยู่ ถ้าพี่จะรอ ก็อีก 10-15 นาทีนะ

เอาละสิ ทำไงดี เมนูมุ่งหวังเสียด้วย ไม่ได้เผื่อจานอื่นๆ เลย แต่เอาก็เอา ไม่ได้อยากนั่งรอนานๆ ก็เลยสั่งเป็นหมูสับธรรมดาไป

ก็ให้นึกเสียดายนิดหน่อย (ที่อดกิน) แต่ด้วยวิญญาณนักขาย มันจะเป็นยังไงนะถ้าหากว่า บทสนทนามันเปลี่ยนไปเป็น

เด็กเสริฟ - พี่ครับ กระดูกอ่อนมันหมดนะครับ กำลังต้ัมอยู่ ถ้าจะรอก็ประมาณ 10 นาทีครับ
ลูกค้า - เอ่อ เอาไงดี ผมตั้งใจมากินเลยนะเนี่ย
เด็กเสริฟ - เอางี้่ไหมครับพี่ พี่สั่งอย่างอื่นมากินไปก่อน แล้วถ้ากระดูกหมูอ่อนต้มเสร็จ ผมจะทำมาให้พี่อีกชาม แต่ชามนี้ เนื่องจากผมให้พี่ต้องเสียเวลาคอย ผมลดให้พี่ 10 บาทครับ

คำถาม 1) ถ้าเป็นคุณ คุณจะรับข้อเสนอนี้ไหมครับ

สมมติว่าผมรับ เล็กน้ำหมูสับ ชามแรกมาถึงแล้ว ผมทานทันที ไม่นานเกินรอ ต้มยำกระดูกหมูอ่อนก็มาถึง
ลูกค้า - เออ น้อง ชามนี้มันพิเศษหรือเปล่า
เด็กเสริฟ - (พี่นี่ช่างถามนักนะ) เปล่าครับ ราคาธรรมดา แต่ผมให้พี่เยอะกว่าปกตินะครับ เห็นพี่รอนาน น่าจะหิว

คำถาม 2) คุณจะรู้สึกยังไงกับสิทธิพิเศษนี้ครับ

คุณเดินออกมาจากร้าน เจอขนมทองม้วนสดที่แม่ค้านั่งขายอยู่ แปะป้ายราคา ห่อละ 20 แต่ 3 ห่อ 50 คุณดูแล้วยังลังเล ไม่อยากกินถึง 3 ห่อ มองสบตาแม่ค้าไปๆ มาๆ
แม่ค้า - รับสัก 3 ห่อไหมคะ ห่อละ 20 แต่ 3 ห่อ 50
ลูกค้า - อืม เยอะไปนะ ทานไม่หมด

ทางเลือก 1) งั้นถ้าซื้อ 3 ห่อ ป้าแถม ขนมจากให้ 5 ชิ้นนะ
ทางเลือก 2) ถ้าทานไม่หมด เอาไป 2 ห่อแล้ว ลดให้ 5 บาทละกัน

คุณจะเลือกทางไหนครับ??

**************************
ครับ ทั้งหลายทั้่งปวงเหล่านี้ ก็เป็นเคล็ดเกร็ดการค้าแบบทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่อยากจะชี้คือ เราสามารถเพิ่มยอดขายของเราได้ตลอดเวลา ด้วยเงื่อนไขต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อเพิ่ม แล้วได้ส่วนลด ของแถม หรือการโน้มน้าวเพื่อปิดการขาย ในกรณีที่ลูกค้ายังลังเล เพราะสินค้าของเราไม่ได้แตกต่างจากเจ้าอื่นๆ มากนัก

ก็ฝากไว้เป็นไอเดียนักการตลาด การขายทุกท่าน ที่เอาไว้ฝึกสมองเพื่อให้การเดินทางพอจะมีสีสันขึ้นบ้าง หรือจะเอาสนุกๆ ไว้คุยกับแม่ค้่าก็ได้ครับ

**************************
หลังเหม่งมอง
- เราจำเป็นต้องทานมากกว่าปกติ เพราะส่วนลดหรือเปล่าครับ
- ส่วนลดที่ได้ สุดท้ายเราต้องจ่ายเงินเพิ่มกว่างบประมาณใช่ไหมครับ
- ก๋วยเตี๋ยวชามที่ 2 ไม่ได้เยอะครับ แต่ชามแรกน้อยกว่าปกติ
- ส่วนลด 5 บาทของขนม ก็ประมาณเท่ากับที่เขาลดตามปกติแล้ว แต่อย่างน้อยก็ไม่มีของเหลือ

มองมุมเหม่ง > ระหว่างทางกับการสร้างแบรนด์..(On The Road 1)

ขวาได้ซ้ายก็ดี
ไม่ได้สักที ดีทั้งคู่
แล้วจะอยู่ยังไง
***********************************

เคยเขียนถึงร้านค้าที่จุดแวะพัก บนถนนมอเตอร์เวย์ไปครั้งหนึ่ง แต่ยังมีอะไรให้เราได้สังเกต ได้พิเคราะห์อีกเยอะ ระหว่างการเดินทางไปเส้นตะวันออกครั้งนี้ ขากลับ ผมตัดสินใจที่จะฝากท้องไว้ ณ จุดแวะพักที่มีร้านอาหารทั้งคาวหวาน ของฝาก และผู้คนมากมายเดินกันให้ครึกครื้น

เลือกไม่ถูกว่าจะเอาร้านไหน ตัดสินใจเลือกร้านก๋วยเตี๋ยวที่ในอดีตเคยเป็น "ทอล์กออฟเดอะทาวน์" ถึงรสชาติเผ็ดร้อนและรูปแบบก๋วยเตี๋ยวในเอกลักษณ์ของตนเอง หวังว่าคงจะรื้นฟื้นความจำดีๆ และความอร่อยที่ไม่ได้เจอกันตั้งนาน

แต่เมื่อถึงหน้าร้าน ผมเริ่มงงเล็กน้อย กับแผงอาหารที่วางเรียงราย ตรงหน้าร้าน ด้านขวาเจอกับแผงข้าวแกงเป็นอย่างแรก ซ้ายมือถัดไป ในตู้ เป็ดพะโล้และไก่ต้มแขวนคอคุยกันอย่างออกรส ก๋วยเตี๋ยวที่เป็นชื่อเป็นเสียงของร้าน โดนลากไปหลบมุมอยู่ที่ด้านซ้ายสุด ผมชักไม่แน่ใจแล้วว่า ณ ตอนนี้ ผมควรสั่งอะไรดี โชคยังดี ที่ผนังของร้านยังติดเมนูก๋วยเตี๋ยวเด่นๆ ให้เลือกหลากหลายเหมือนเคย ผมเลือกต้มยำกระดูกหมูอ่อนเป็นประเดิม

ระหว่างที่รอ ผมนั่งคิดถึงวิชาการตลาด ในเรื่อง "แบรนด์ดิ้ง - Branding การสร้างตราสินค้า" ที่เคยเรียนมา ร้านนี้เคยมีชื่อเสียงที่ีโ่ด่งดังด้านก๋วยเตี๋ยว แต่เหตุใดกันเล่า จึงให้ข้าวแกง หรือ เป็ดพะโล้ มามีบทบาทในร้านตัวเองเสียได้ ทำให้ลูกค้าสับสน เหมือนกับร้านก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ชื่อดังแถวบ้านที่บางกระบือ หรือ ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ที่พัทยา ไม่รู้ว่า เจ้าของร้านเสียดายพื้นที่ หรืออยากตอบสนองลูกค้าจนต้องเพิ่มเมนูอื่นๆ ให้มากขึ้น มากขึ้่นเสียจนลูกค้าลืมไปแล้วว่า ตูจะมากินอะไร ร้านนี้มีชื่อเสียงจากอะไร แถมพอต้องทำหลายๆ อย่าง ที่ไม่ได้ดีสักอย่าง พาลให้อาหารจานเด่นไม่มีการปรับปรุงและ ความเป็นตำนานหรือรสชาติที่แตกต่างกลายหายไปในที่สุด

ก็คงเป็นเรื่องของการเลือกที่จะเป็น ว่าจะยอมอดทนกับ "จุดขาย" ที่เลือกแล้ว หรือ มุ่งหวังกำไรเฉพาะหน้า ให้คุ้มค่าเช่าไปวันๆ นี่เลยเป็นประเด็นที่ว่า ทำไมคนไทยส่วนใหญ่ ถึงสร้าง "แบรนด์" กันไม่ค่อยเป็น เพราะเรามองอะไรที่มันสั้นๆ ใกล้ๆ ตัว ไม่กล้าที่จะคิดใหญ่ เอาปลอดภัยไว้ก่อน สุดท้าย พอกระแสเรื่องแบรนด์ดัง ต่างชาติมันกลับมาหาเงินกับเราในเรื่องนี้กันอีกต่อหนึ่ง

ครับ ก๋วยเตี๋ยวยังไม่มา ทานน้ำรอไปก่อนนะครับ เรื่องนี้ยังมีต่อ...