January 7, 2010

มองมุมเหม่ง > เพื่อน 2 คน (Friends)

เด็กเด็กนั้นเปลือกบาง
พอเติบใหญ่ทางใครทางคน
เปลือกกับใจเปลี่ยนไหม
*************************

จะว่าไป ผมเองค่อนข้างมีเพื่อนฝูงอยู่พอสมควร ทั้งจากโรงเรียนฝรั่งย่านสามเสน ต่อเนื่องไปยัง มหาลัยฯ อกแตก มีรถไฟพาดผ่าน (แถมตอนนี้ มีถนนมอเตอร์เวย์ประกบหลังบ้าน) จนมาถึง มหาลัยฯ เก่าแก่ตรงข้ามวัดหัวลำโพง

การที่มีเพื่อนเยอะ ก็เป็นสิ่งดีที่สอนให้เรารู้จักและเข้าใจ "คน" มากขึ้น "คน" ที่มาจากต่างพื้นเพ พื้นฐานครอบครัว หน้าที่การงาน ฐานะ ที่ต่างกัน

แต่อย่างน้อยผมคิดว่า ทุกคนก็เป็นคนดี และมีอะไรให้เราได้เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ซึ่งถ้าจะให้เขียนกันจริงๆ คงเขียนกันได้หลายบท หลายตอน แต่วันนี้จะขอพูดถึงแนวคิดในการใช้ชีวิตของเพื่อนสัก 2 คนครับ

เพื่อนคนแรก พื้นเพพ่อแม่เป็นข้าราชการระดับสูงที่อบอุ่น มีฐานะดีพอสมควร ชีวิตราบรื่นเกือบทุกด้านตั้งแต่เด็กๆ พอเรียนจบวิศวะจากต่างประเทศก็เข้าทำงานในบริษัทชั้นนำ ปัจจุบันเป็นหัวหน้าแผนกระดับกลาง มีภรรยาและครอบครัวที่น่ารัก นานๆ ครั้งจะเห็นเขามาร่วมกินร่วมดื่มกับพวกเราบ้าง แต่ก็อย่างว่าไป กลับก่อนประจำ

เพื่อนอีกคน มาจากฐานะธรรมดา พ่อเขาเป็นอดีตนายสิบที่ผันตัวมาเป็นครูประชาบาล ใช้ชีวิตลุ่มๆ ดอนๆ กินมื้อนี้ อดมื้อหน้า กว่าจะจบวิศวะก็เลือดตาแทบกระเด็น เปลี่ยนงานมาก็หลายบริษัท ล่าสุดใช้ชีวิตเป็นพนักงานขาย มีผลงานระดับแนวหน้าของบริษัท

ครั้งล่าสุดที่นัดกันตีกอล์ฟรวมรุ่น เพื่อนคนแรกควบรถเก๋งญี่ปุ่นเก่าๆ ที่ใช้มาแล้วกว่า 10 ปี พร้อมกับอุปกรณ์กอล์ฟที่ใช้มาตั้งแต่ครั้งเพิ่งเริ่มทำงาน แถมใส่รองเท้าผ้าใบเก่าๆ

เพื่อนคนหลังมาช้า เหตุเพราะเมื่อคืนดื่มดึกไปหน่อย มาพร้อมกับรถยุโรปใบพัดสีฟ้า รุ่นล่าสุด รองเท้า กระเป๋า ไม้กอล์ฟ รุ่นล่าจากธนิยะ (แหล่งอุปกรณ์กอล์ฟชั้นนำ)

ระหว่างการตี ผมได้มีโอกาสคุยกับพวกเขา รวมไปถึงแนวคิดการใช้ชีวิตส่วนตัวที่ไม่เจอกันนาน

******************************
"... เหม่ง กูเป็นคนขี้กังวลว่ะ บางคืนก็นอนไม่หลับ มัวแต่คิดว่า ถ้าต่อไปลูกกูโตแล้วจะเป็นไงบ้าง แล้วตอนกูเกษียณแล้ว กูกับแฟนจะอยู่ยังไง ...."

"... ชีวิตเรามันก็เท่านี้ จะเอาอะไรมากมาย เที่ยวให้มันส์ ใช้ชีวิตให้คุ้ม ลูกเราเลี้ยงได้แต่ตัว โตมาก็เป็นคนอื่นแล้ว ....."

"... แหม ปีนึงกูตีกอล์ฟประมาณ 3-4 ครั้ง รองเท้ากอล์ฟแพงๆ ไม่จำเป็นหรอก ไม่ได้ไปแข่ง ไปโชว์ใครที่ไหน..."

"... มันมีผลต่อภาพลักษณ์ว่ะ เวลาไปหาลูกค้า ไปออกรอบด้วยกัน แม่งมองกูตั้งแต่หัวจรดส้นตีนเลย..."

"... งานกูก็ดี ทำไปเรื่อยๆ นั่นแหละ แข่งไปปวดหัวเปล่าๆ กลับบ้านช่วยเมียเลี้ยงลูกดีกว่า..."

"... เป็นเซลล์มันก็เหนื่อยหน่อย นายกูบี้ยอดทุกเดือนเลย เลยไม่ค่อยมีเวลามาเจอพวกมึงไง.."

"... เออ ตอนนี้กูซื้อที่ไว้แปลงนึง ริมแม่น้ำ เอาไว้ปลูกผัก ปลูกหญ้าไว้กินตอนแก่ ..."

"... ช่วงนี้หุ้นมันดีว่ะ เมื่อวานเพิ่งขาย ปตท. ไป เลยออกแบล็กเบอรี่มาใช้หน่อย เห็นเขากำลังฮิตกัน มึงไปซื้อบ้างดิ ..."
******************************

จากตัวอย่างบทสนทนากับพวกเขา คิดว่า คงจะพอเห็นแนวคิด การใช้ชีวิตที่ต่างกันนะครับ คงไม่มีความคิดเห็นอะไรเพิ่มเติม เพราะทั้ง 2 แนวคิด ต่างก็มีจุดดี จุดด้อย ในตัวมันเอง

เราควรจะเข้าใจ และปรับให้ได้ว่า ในเวลาไหน ตอนไหน ควรจะประยุกต์แนวคิดไหนมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นการออม การลงทุน หรือ กับครอบครัว จะบู๊ระห่ำ หรือ เรียบง่ายสบายๆ ก็เลือกเอา

แต่สุดท้ายแล้ว เกมส์กอล์ฟในวันนั้น ก็พาเราย้อนเวลาไปเป็นเด็กกันอีกครั้ง