October 5, 2009

เรียนจากหนัง > The Unit ทหารนั้นก็คน (The Unit: Soldier is human)


เมื่อวานนี้เพิ่งจะได้ฤกษ์ที่จะเอาหนังชุดเรื่องนี้ลงมาจากหิ้ง ความคิดแรกที่ดูจากชื่อเรื่อง และคำโฆษณาคร่าวๆ คิดว่าเรื่องนี้น่าจะมาแนว คอมมานโดของพี่บึ๊ก อาร์โนลด์ผู้ว่าแคลิฟอร์เนีย หรือจะพี่ซิลเวสเตอร์ แรมโบ้ ที่ทหารคนเดียวถือปืนบุกเดี่ยว โดยไม่ได้แบกปูนไปโบกตึกแต่ไปฆ่าคนทั้งกองทัพ

พอได้ดูก็รู้ว่า ตูนี้พลาดไปอีกแล้วหนอ หนังดีๆ อย่างนี้ปล่อยให้ฝุ่นจับได้ไง
มุมมองนี้อยู่ที่อายุ และประสบการณ์ด้วยนะครับ เรื่องนี้ถ้าถามเด็กๆ มันอาจจะน่าเบื่อเมื่อเทียบกับสองเรื่องข้างต้น

The Unit เนื้อหาดัดแปลงมาจากหนังสือเรื่อง “Inside Delta Force” เป็นเรื่องเกี่ยวกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ของกระทรวงกลาโหม ทุกคนในทีมไม่มีตัวตน ใช้นามแฝงทั้งในการทำงานและชีวิตจริง แบ่งเป็นทีมๆ อัลฟา เบต้า โดยจะทำภารกิจที่หน่วยงานอื่นๆ เช่น FBI, CIA ไม่สามารถออกหน้าได้ (แต่สามารถเอาหน้าได้ ถ้างานนั้นสำเร็จ)
ความน่าสนใจอย่างแรกคงเป็นฉากบู๊ที่ตัวละครต้องใช้สมองในการแก้ปัญหาเพื่อบรรลุภารกิจได้ ในเวลา และเงื่อนไขที่กำหนด เราได้รู้ว่า บางทีการใช้กำลังไม่ใช่คำตอบสุดท้ายเสมอไป คุณสามารถชนะโดยที่สูญเสียน้อยที่สุด เพียงแค่มองปัญหาให้รอบด้าน เชื่อมโยงสิ่งที่เกี่ยวข้องกัน เลือกหนทางที่ใคร่ครวญแล้วว่าดีที่สุด
อีกอย่างหนึ่งคือ ไม่มีฮีโร่คนไหนไม่ผ่านความยากลำบากในการเรียนรู้และฝึกฝน ทั้งการฝึกส่วนตัวและการฝึกเป็นทีม หนังแสดงให้เห็นว่า เมื่อพบความผิดพลาด ทั้งทีมต้องช่วนกันวิเคราะห์และแก้ปัญหาต่างๆ เพราะในสถานการณ์จริง คุณอาจจะไม่มีโอกาสครั้งที่สองอีกแล้ว
นอกเหนือจากนั้น หนังได้แทรกชีวิตด้านอื่นๆ ของทหารเหล่านี้ ซึ่งผมคิดว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจกว่าเนื้อหาบู๊ๆ ด้วยซ้ำ
เคยถามตัวเองหลังดูแรมโบ้ คอมมานโด ไหมครับ ว่าชีวิตประจำวันเขาทำอะไรกันบ้าง ใจคอจะรบจะสู้กันทุกวันเลยเหรอ
หนังเรื่องนี้มีชีวิตเบื้องหลังให้ดูเต็มที่เลยครับ ให้เราเห็นว่า ทหารนั้นก็คนเหมือนกัน มีลูก มีเมีย มีรัก โลภ โกรธ หลง ฝัน หวาน อาย จูบ แถมลูบคลำในบางจังหวะ
ได้เห็นว่า ความสำคัญของ “หลังบ้าน” นั้นมากแค่ไหน เช่น การรวมกลุ่มแม่บ้านเพื่อดูแลคนที่มาใหม่ การช่วยเหลือต่างๆ แม้กระทั่งการรวมตัวทำมาหากิน เพื่อให้มีเงินทองพอเีพียงในการดำรงชีวิต
ดูแล้วไม่รู้ว่าเลียนแบบสมาคมแม่บ้านของเราหรือเปล่า
ซึ่งหนังเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่ของคุณพ่อบ้านเท่านั้น ผมว่าคุณแม่บ้านก็น่าจะได้เรียนรู้อะไรจากหนังเรื่องนี้เช่นกัน

ดูเสร็จแล้วมองกลับมาบ้านเรา อย่างแรก เมื่อไรจะมีหนังชุดดีๆ อย่างนี้จากฝีมือคนไทยบ้าง และทหารไทยจะเก่งเหมือนเขาได้ไหม
ก็เป็นคำถามที่ล่องลอยในสายลมต่อไป

2 comments: