August 12, 2011

เรียนจากหนัง > The Scam - วิถีของความโลภ


วันหยุดยาวๆ อย่างนี้ ได้โอกาสที่จะเอาหนังที่ซื้อๆ ไว้มานั่งดู The Scam (2009) ในชื่อภาษาไทยไร้ลีลาว่า "จอมตุ๋น แก๊งค์อัจฉริยะ เจ๋งเป้ง" ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับ การลงทุนในตลาดหุ้น มาเฟีย และชั้นเชิงในการหักหลัง ซ้อนแผน เพื่อผลประโยชน์ของแต่ละคน ก็เป็นอีกหนึ่งหนังแนะนำ โดยเฉพาะคนที่เรียกตัวเองว่านักลงทุนครับ

นิยามของการลงทุนหุ้นตามที่รู้ๆ กันนั้น คือ "ซื้อถูก ขายแพง" เลือกซื้อบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริง มีการบริหารที่มีธรรมาภิบาล (คำเท่ๆ อีกคำที่จะหายไปในไม่ช้า) ฯลฯ ตามแต่จะว่ากันไป เพื่อดึงดูดให้มด แมลง แมงเม่าทั้งหลาย นำเงินที่เก็บออมมาลงทุนในบ่อนถูกกฏหมายระดับชาติแห่งนี้

หนังโฟกัสไปที่ตัวแทนชนชั้นกลาง ฮอนซู (Kang Hyeon-soo) ผู้ซึ่งหมดตัวกับหุ้นยุคดอตคอม ทำให้เขาต้องเรียนรู้และทุ่มเทกับการเล่นหุ้นอย่างจริงจัง เพื่อที่จะเป็นมหาเศรษฐีให้ได้ หนังเล่นสัญลักษณ์ไปที่รถยุโรปหรูๆ ซึ่งแสดงถึงความร่ำรวยเป็นเป้าหมายของเขา

วันหนึ่งโชคก็เป็นของเขา จากความรู้และการวิเคราะห์ด้านเทคนิคที่ฝึกฝนมากว่า 5 ปี เขาสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของหุ้นตัวหนึ่ง ซึ่งทำให้เขาได้เงินก้อนใหญ่ในที่สุด แต่สิ่งที่ตามมาคือ มด (ไม่ยักเรียกแมงเม่าเหมือนคนไทย) อย่างเขาได้ไปขวางแผนของมาเฟีย ฮวาง จองกู (Hwang Jong-goo) ที่กำลังจะปั่นราคาหุ้นตัวนี้ ให้สะดุดลง ด้วยการแพร่ข่าวการวิเคราะห์ของเขาไปยังเพื่อน และอย่างที่หนังว่า "อย่าบอกใครนะ" เป็นเชื้อไฟชั้นดีที่ทำให้ข่าวต่างๆ แพร่หลายได้เร็วที่สุด

ดังนั้น ฮอนซู จึงเข้ามาเป็นหมากตัวหนึ่งของ จองกู และเพื่อนๆ ที่ประกอบด้วย เจ้าของบริษัทที่จะปั่นราคา, โบรกเกอร์ขาใหญ่, นักวิเคราะห์ทางทีวี, ผู้จัดการกองทุน และ สาวสวยที่ปรึกษาการเงินส่วนตัวนักการเมือง โดยที่จะทำการปั่นราคาแล้วเมื่อถึงจุดที่ต้องการก็ขายซะ โดยที่ไม่ต้องสนใจปัจจัยอะไรต่างๆ เกริ่นไว้ข้างต้นเลย เราจะเห็นว่า ความสัมพันธ์, ข้อมูลที่ดูแล้วน่าเชื่อถือ และความเชื่อของคน นั้นต่างหากครับ ที่จะทำให้ราคาหุ้นมันวิ่งขึ้นไป

ถ้าทุกคนเคารพในสิ่งที่ตกลงกันไว้ หนังเรื่องนี้คงจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง แต่ "ความโลภ" ทำให้ไปไกลกว่านั้น การหักหลัง การซ้อนแผน และการแก้เกมถูกงัดมาใช้จากตัวละครทุกคน ตามแต่ที่จะถนัด ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรง เล่ห์ ราคะ หรือ ความไว้เนื้อเชื่อใจ ซึ่งสุดท้าย คนที่จะรอดจากหายนะมาได้ คือคนที่ยอมรับว่า "พอ" แล้วเท่านั้น

นอกจากเราจะเรียนรู้ได้ว่า การลงทุนในตลาดไม่ใช่การเสี่ยงดวง ต้องมีความรู้ ความเข้าใจในสิ่งนั้นๆ แล้ว หนังยังย้อนกลับไปที่พื้นฐานการลงทุนที่ถูกต้อง คือการเลือกบริษัทที่ดี สามารถทำรายได้ให้เราในระยะยาว หรือที่เราเรียกกันว่า Value Investor ซึ่งมีตัวอย่างบุคคลมากมาย วอร์เรน บัฟเฟตต์ หรือ ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เป็นต้นครับ

มุมสุดท้ายที่สังเกตเห็นคือ ความเชื่อถือ หรือ เครดิต ครับ ที่เป็นสิ่งสำคัญ เพราะในโลกที่ท่วมท้นไปด้วยข้อมูลข่าวสาร และเวลาที่จะศึกษาอะไรต่อมิอะไรน้อยลงไป เราอาจจะจำเป็นต้องฝากชีวิตไว้กับคนที่ท่านเชื่อถือได้นะครับ ซึ่งไม่ใช่ว่า ความดีของเขาในอดีต จะเป็นตัวรับประกันสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนะครับ ดังนั้นก็ขอให้พิจารณาให้ถ้วนถี่ด้วย

ก็หวังว่า ถ้าหากท่านใดคิดจะเข้าสู่โลกของการลงทุน หนังเรื่องนี้คงจะมีประโยชน์กับทุกท่านบ้างนะครับ

*******************************
หมายเหตุ
คงเป็นเรื่องบังเอิญ ที่ผมมาดูหนังเรื่องนี้ในวันที่ 12 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของพระเอก ปาร์ค ยองฮา ในบทฮอนซู ครับ แต่ว่า ยองฮาเอง ได้ฆ่าตัวตายด้วยการแขวนคอไปตั้งแต่ 30 มิถุนา ปีที่แล้ว ก็น่าเสียดายดารา นักร้องฝีมือดีๆ อีกคนในวงการครับ (อ้างอิง http://movie.mthai.com/movie-news/68153.html)

No comments:

Post a Comment