September 17, 2011

เป็นเรื่อง > นิทานหมาป่า (Eating Wolf) [PG 13+]


กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว เมื่อหนูน้อยหมวกแดงได้เติบโตขึ้น เธอได้แต่งงานกับพระราชาอย่างมีความสุข และปกครองบ้านเมืองสืบต่อมา...
*************
กาลครั้งโน้น เมื่อไล่หมาป่าที่จะมาปองร้ายไปแล้ว ลูกหมูทั้ง 3 ตัว ก็อาศัยอยู่ในบ้านอิฐสีแดงหลังใหญ่ อย่างมีความสุขต่อไป...
*************
กาลครั้งนั้น หลังจากที่ฝูงหมาป่าได้บุกเข้ามากินแกะในหมู่บ้านไปแล้ว ก็ไม่มีใครได้ยินข่าวคราวครอบครัวของเด็กเลี้ยงแกะอีกเลย
*************

จนกระทั่ง กาลครั้งนี้...

เมื่อราชินีหมวกแดงได้เสด็จมายังท้องพระโรง เพื่อว่าราชการตามปกติ ก็พบกับกลุ่มเสนาอำมาตย์กลุ่มใหญ่กำลังถกเถียงกันอยางเคร่งเครียด

"ขอเดชะ ขณะนี้เหตุการณ์ประท้วงของประชาชนเริ่มจะลุกลามไปแล้วพะยะค่ะ เนื่องจากฝูงหมาป่าได้บุกเข้าแย่งชิงฝูงวัว ฝูงแกะ และทำร้ายชาวเมือง ทำให้ทุกคนหวาดกลัว ไม่สามารถทำมาหากินได้ตามปกติแล้ว"

ราชินีหมวกแดง ถอนหายใจอย่างเคร่งเครียด

"ถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว อีกไม่นาน คงบานปลายไปทั้งเมืองสินะ แล้วพวกทหารล่ะ"

"เอ่อ.. มีข่าวลือว่าฝูงหมาป่านั้น เป็นพวกปีศาจมนุษย์หมาป่า และทหารที่ส่งออกไปก็ตายหมด ที่เหลือก็เสียขวัญกันใหญ่แล้วพะยะค่ะ"

"ฮึ ใช้ไม่ได้สักคน พวกเจ้าจงประกาศออกไป ให้นายพราน หรือใครก็ได้ที่สามารถรับมือฝูงหมาป่านี้ได้ มาเข้าเฝ้าโดยด่วน ข้าจะมีรางวัลให้อย่างงาม"
*************
วันนี้ที่บ้านอิฐสีแดงหลังใหญ่ มีเสียงเฮฮาดังออกมา หลังจากที่เงียบหายไปนานในช่วงที่บ้านเมืองเกิดวิกฤตเช่นนี้

"อู๊ดๆ ตามสบายเลยท่านผู้เฒ่าแกะ พวกข้าดีใจที่ท่านให้เกียรติแวะมาเยี่ยมเยือนเรา 3 พี่น้องจริงๆ อู๊ดๆ" เจ้าหมูใหญ่ พี่คนโตยิ้มแย้มต้อนรับ

"แบร์ แบร์ เอ่อ ที่ข้ามาหาท่านวันนี้ เพราะได้ยินจากชาวเมืองว่าท่านทั้ง 3 นั้น เป็นผู้กว้างขวางและรู้จักใครต่อใครมากมาย คงจะเป็นที่พึ่งให้ข้าได้"

"ท่านว่ามาเลย" เจ้าหมูรองแตะไหล่เพื่อให้กำลังใจ

"อย่างที่ท่านรู้ ตอนนี้ฝูงหมาป่าออกอาละวาด อย่างไม่เกรงกลัวใครเลย พวกชาวบ้านหรือแม้กระทั่งทหารก็หวาดกลัวกันหมด ปกป้องพวกแกะอย่างข้าไม่ได้ จนทุกวันนี้ประชากรแกะก็หายไปกว่าครึ่งแล้ว ส่วนข้าเองนั้น ก็เสียลูกชายให้กับหมาป่าใจพาลที่ริมแม่น้ำเมื่อหลายปีที่แล้ว ทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็นฝีมือพวกมัน แต่ก็ไม่มีใครทำอะไรมันได้เลย ข้าจึงเป็นตัวแทนพวกแกะ มาขอให้ท่านช่วยจัดการพวกหมาป่าให้ที" ผู้เฒ่าแกะก้มลงหมอบเพื่อขอร้องเจ้าหมูทั้ง 3 ตัว

"พวกข้าไม่เหลืออะไรแล้ว แต่อย่างน้อยขนของพวกข้าคงมีราคาดี สำหรับหน้าหนาวนี้ที่จะมาถึงอย่างแน่นอน"
*************
หลังจากที่ผู้เฒ่าแกะกลับไปแล้ว เจ้าหมูทั้ง 3 ตัว ปิดบ้านหารือกันอย่างลับเฉพาะ

"พวกพี่ว่าไง กับข้อเสนอของเจ้าแกะเฒ่านั่น ในภาวะเช่นนี้ ข้าว่ามันน่าสนใจนะ" เจ้าหมูเล็กส่งเสียงสนับสนุน

"มันไม่ง่ายอย่างนั้นนะสิ พวกเจ้าก็รู้ ว่าเรารอดชีวิตมาถึงทุกวันนี้ได้ ก็เพราะเรื่องที่เราจัดการเจ้าหมาป่าในคราวโน้นได้โดย
บังเอิญ ไม่อย่างงั้นแล้ว พวกเราคงโดนจับเชือดไปตั้งนานแล้วล่ะ" หมูรองเตือนสติ

"แล้วช่วงนี้ เหยื่อโง่ๆ ที่พอจะหลอกได้ก็ไม่ค่อยมี ไปไหน ไปไหน ใครๆ ก็ไม่มีเงินแล้ว ถ้าพวกพี่ๆ ไม่เอาข้าจะจัดการเองน่ะ" เจ้าหมูเล็กใจร้อนตัดบท

"ใจเย็นๆ เจ้ารอง เจ้าเล็ก ข้ามีความคิดที่ดีกว่านั้น" หมูใหญ่เจ้าของบ้านอิฐ ยิ้มกริ่มเอามือลูบท้อง ในแบบที่น้องทั้ง 2 ไม่ได้เห็นมานานแล้ว
*************
หลังพระกระยาหารเช้า ราชินีหมวกแดงอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เพราะมหาดเล็กรายงานว่า ได้เจอนายพรานมือฉมังลูกของอดีตพรานป่า ที่เคยช่วยชีวิตนางไว้เมื่อสมัยยังเด็ก มาเข้าเฝ้าตามพระบัญชาแล้ว

"ข้าดีใจเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เจ้ามาช่วยข้าในการปราบพวกหมาป่าในครั้งนี้ ว่าแต่ว่าที่ผ่านมาเจ้าไปทำอะไรมา"

"ขอเดชะ หลังจากที่พ่อบุญธรรมตาย ข้าก็ออกเดินทางไปล่าหมาป่าที่เมืองอื่นๆ จนกระทั่ง ทราบข่าวนี้พระเจ้าค่า"

"แล้วเจ้าหมูโสโครกนี่หล่ะ เจ้าเป็นใคร" ราชินีหมวกแดงหันไปเห็นเจ้าหมูใหญ่ยืนสงบเสงี่ยมอยู่ด้านข้างๆ

"เอ่อ อู๊ดๆ ขอเดชะ ข้าและน้องข้าอาศัยอยู่ทางตอนเหนือของเมืองพะยะค่ะ พวกข้าเคยปราบหมาป่าได้ในอดีต และทราบมาว่าท่านต้องการคนช่วยเหลือเช่นกัน ข้าจึงขออาสา แหะ แหะ"

"น่าสนใจดีนี่ เจ้าว่าแผนของเจ้ามา"

"แผนก็คือ ข้าจะแกล้งนำแกะจำนวนหนึ่ง ไปล่อให้ฝูงหมาป่าออกมายังที่ทหารเราซุ่มโจมตีอยู่ เพื่อตัดกำลังบางส่วน อีกทางนึง ท่านนายพรานก็อ้อมไปยังรังของมันเพื่อกำจัดพวกที่เหลือ ถ้าแผนนี้สำเร็จก็จะเรียกศรัทธาจากประชาชนมาได้อีกครั้ง พระเจ้าค่า"

"ดีมาก จัดไปตามนั้น ทหาร ข้าขอแต่งตั้งท่านนายพราน และเจ้าหมูนี่เป็นแม่ทัพในการปราบหมาป่าในครั้งนี้ พวกเจ้าจงให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ทุกคน"
*************
ระหว่างทางอันคดเคี้ยวในหุบเขาลึกนอกเมือง เจ้าหมูทั้ง 3 เดินนำฝูงแกะจำนวนหนึ่ง บรรยากาศรอบข้างไม่สู้ดีนัก เสียงหมาป่าร้องมาจากไกลๆ ทำให้ทั้งหมดรู้สึกขนลุกมากกว่าเดิม

"่ท่านหมูใหญ่ ท่านคิดว่าแผนการนี้จะสำเร็จหรือเปล่า" ผู้เฒ่าแกะถามขึ้นด้วยความกังวล

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า อู๊ดๆ สำเร็จสิ ท่านไม่ต้องกังวลไป พระราชินีหมวกแดงท่านให้กำลังเราอย่างเต็มที่ ตอนนี้พวกทหารก็คงไปซุ่มอยู่ที่จุดนัดพบเรียบร้อยแล้ว คราวนี้แหละท่านก็จะได้ล้างแค้นอย่างที่ท่านต้องการซะที" หมูใหญ่ยิ้มพร้อมเอามือลูบท้องอีกครั้ง

เมื่อทั้งหมดเดินทางมาถึงจุดนัดพบ นอกแนวป่า สองข้างเป็นผาชันมีต้นไม้รกครึ้ม เจอหมาป่าฝูงหนึ่งรออยู่แล้ว

"พวกเจ้ามาช้านะ" แทนคำทักทายจากหมาป่าตัวที่ใหญ่ที่สุด ทั้งหมูทั้งแกะถึงกับถอยกรูดโดยสัญชาตญาณ เมื่อเผชิญหน้ากับหัวหน้าหมาป่าอย่างใกล้ชิดเช่นนี้ รอยแผลเป็นที่ลากยาวจากหน้าผากจนถึงใต้ตาเสริมให้ดูน่ากลัวยิ่งนัก นี่ถ้าไม่ได้พวกทหารที่ซุ่มอยู่ เจ้าหมูทั้ง 3 คงวิ่งกันป่าราบยิ่งกว่าสมัยตอนเด็กๆ เสียอีก

"อ่ะ อ่ะ อู๊ดๆ ท่านจ้าวหมาป่า อย่าเพิ่งอารมณ์เสียไปเลย ข้ามาวันนี้เพราะเป็นตัวแทนชาวเมืองจะมาเจรจากับท่าน เพื่อไม่ให้ท่านบุกเข้าไปทำร้ายชาวเมืองน่ะ เราน่าจะอยู่กันได้อย่างสงบเหมือนเมื่อก่อน"

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า" จ้าวหมาป่าหัวเราะเสียงลั่นไปทั้งหุบเขา "ช่างตลกสิ้นดี เจ้าจะมาต่อรองอะไร เมื่อตอนนี้พวกข้ามีเป็นร้อยๆ ตัว จะบุกยึดเมื่อไรก็ได้ ว่าแต่ว่าข้อเสนอของเจ้าล่ะ คืออะไรหา!! เจ้าหมู"

"คำก็หมู สองคำก็โสโครก ทำไมไม่มีใครมองหมูอย่างพวกข้าในแง่ดีบ้างว้า.." เจ้าหมูใหญ่บ่นงึมงัม หันกลับไปซุบซิบภาษาหมูกับน้องๆ ทั้ง 2 ที่ยืนตัวสั่นไม่แพ้กัน

"พี่ๆ ข้าว่าดูจากกำลังทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว ทางหมาป่าน่าจะเป็นต่อกว่าเยอะเลยน่ะ" เจ้าหมูเล็กกระซิบเสียงลนลาน

"ข้าว่าท่านรอพวกทหารก่อนละกัน ส่วนทางนายพรานน่าจะกำลังปราบพวกที่เหลือนะ" เจ้าหมูรองติงขึ้นมา

หลังจากกรอกตาใช้ความคิด 2-3 ที เหลือบไปมองฝูงแกะที่ยืนเข้ากลุ่มกัน ตัวสั่นจากสายตาของเหล่าหมาป่า เจ้าหมูใหญ่ตัดสินใจเดินไปหาจ้าวหมาป่าอย่างนอบน้อมแกมเจ้าเล่ห์

"เอ่อ ท่านจ้าวหมาป่า ข้าทราบดีว่าท่านจะบุกโจมตีเมืองในไม่ช้า แต่พวกข้าเองเป็นหมูตัวเล็กๆ หาเลี้ยงชีพไปวันๆ ข้าขอให้ท่านเว้นชีวิตพวกข้าด้วย โดยขอมอบพวกแกะฝูงนี้ตอบแทนท่าน และเมื่อข้ากลับไปแล้ว ท่านอยากทราบข่าวคราวข้างในยังไง ข้าจะจัดการอำนวยความสะดวกให้ท่านเอง อู๊ดๆ" กล่าวเสร็จได้แต่หมอบนิ่ง รอคำตอบ ในขณะที่ฝูงแกะเริ่มสับสนอลหม่านกับข้อเสนอของเจ้าหมูใหญ่

"แบร์ แบร์ เจ้าหมูใหญ่ นี่เจ้าคิดหักหลังพวกข้าหรือนี่ ไหนว่าเจ้าจะมาล่อพวกหมาป่าเพื่อให้ทหารมาซุ่มฆ่ายังไงเล่า แบร์ แบร์"

"เฮอะ ยังไงพวกเจ้ามันก็แค่แกะรอวันตายอยู่แล้ว เจ้าคิดว่าจะต่อกรกับท่านจ้าวหมาป่าได้อย่างไร ฝันไปเถอะ" หันกลับไปหาจ้าวหมาป่าอีกครั้ง "
แหะๆ อย่าไปฟังคำพูดของพวกมันเลยครับ เชิญพวกท่านสำราญกับฝูงแกะเป็นๆ เหล่านี้ได้เลยครับ"

จ้าวหมาป่า มองเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างขัดเคือง พูดเสียงดังก่อนย่างสามขุมเข้ามาหาเจ้าหมูใหญ่ช้าๆ
"กินมันทั้งหมดนั่นแหละ ไม่มีทหารที่ไหนจะมาช่วยพวกเจ้าได้หรอก ส่วนไอ้หมูตัวเนี้ย ข้าจะไม่ปล่อยให้มันสร้างความอับอายให้พวกเราหมาป่าได้อีกต่อไป"

ก่อนที่เจ้าหมูทั้ง 3 จะได้หันหลังทำอะไรต่อไป ลมเย็นวูบหนึ่งพาดผ่านที่ต้นคอพร้อมกับความเจ็บแปลบเล็กๆ สัมผัสของเลือดข้นเหนียวพุ่งไหลออกมา ภาพของบ้านอิฐหลังใหญ่สีแดงค่อยๆ จางหายไปพร้อมกับสติสุดท้ายของชีวิต
*************
ยามหน้าประตูเมืองวิ่งไปเปิดประตูแทบไม่ทัน เมื่อเห็นนายพรานผู้กล้าเดินกลับมาอย่างโดดเดี่ยวโซเซ แตกต่างจากเมื่อตอนออกจากเมืองไปอย่างเอิกเกริก พร้อมกับกองทหารอย่างคึกคัก

"ท่าน ท่านนายพราน ทำใจดีๆ ไว้" หัวหน้าทหารวิ่งเข้ามารับร่างที่ไร้เรี่ยวแรง
"ข้าคงไม่ไหวแล้ว.. เอ้า เอานี่ไปมอบให้พระราชินี และบอกชาวบ้านทุกคนว่าข้าขอโทษกับเรื่องในอดีตด้วย"
ในถุงมีหัวของหมาป่าสีดำ เพิ่งตายได้ไม่นาน แต่ร่างกายนายพรานเต็มไปด้วยบาดแผลที่ยังมีเลือดไหลโชกออกมา พาสังขารกลับมาได้ขนาดนี้นับว่าเก่งกล้ายิ่งนัก
*************
"น่าเสียดายจริงๆ ที่ต้องเสียนายพรานมือดีอย่างนี้ไป แถมหัวหมาป่าที่ได้มาก็ไม่ใช่ตัวหัวหน้าฝูงเสียด้วยสิ" มหาอำมาตย์ถอนหายใจกล่าวอย่างเสียดาย ราชินีหมวกแดงยิ้มให้กำลังใจ ก่อนที่จะหันหลังกลับพระราชวังต่อไป

"ถึงไม่ได้ตัวหัวหน้าก็ไม่เป็นไร พวกท่านจงประกาศข่าวชัยชนะครั้งนี้ให้กับชาวเมืองทุกคนรับรู้ด้วย ส่วนงานศพของท่านนายพรานนั้น จงจัดตามสมควร สำหรับอดีตเด็กเลี้ยงแกะแล้ว มาถึงขั้นนี้ได้ แค่นี้ก็มากเกินพอแล้วล่ะ"
*************
หลังจากข่าวดีประกาศออกไป ชาวเมืองทุกคนต่างยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ทหารและนายพรานปราบกลุ่มหมาป่าได้ ดูเหมือนว่าหลังจากนั้นข่าวคราวการบุกโจมตีของหมาป่าก็น้อยลง และค่อยๆ เงียบหายไป เศรษฐกิจเ่ริ่มกลับมาดีอีกครั้ง

คืนนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง ราชินีหมวกแดงยืนตามลำพังตรงระเบียง ทอดสายตามองไปยังเมืองของพระองค์ ไม่มีใครรู้ว่านางคิดอะไร

เงาร่างใครสักคนกระโดดขึ้นมาอย่างกระทันหันแต่เงียบเชียบ แตกต่างกับร่างกายที่ใหญ่โตกว่าปกติ แต่ราชินีหมวกแดงกลับไม่แปลกใจ

"เจ้านั่นเอง ข้าไม่นึกว่าจะมาช้าขนาดนี้" พระองค์ดีดนิ้ว หยิบเนื้อสันชั้นดีในชามไวน์โยนออกไป

แสงไฟในห้องสาดให้เห็นจ้าวหมาป่าค่อยๆ คลานออกมาจากเงามืด ดมเนื้อชิ้นนั้น 2-3 ที แล้วกลืนลงคอทันใด

"อืม เนื้อดีน่ะ ข้านะหรือ คืนนี้ข้ามารับรางวัลน่ะสิ ตอนนี้ชาวเมืองเลิกก่อความวุ่นวาย พลเมืองแกะเพิ่มมากขึ้น แกงค์หมู 3 ตัวที่คอยต้มตุ๋นชาวบ้านก็หมดไป ท่านน่าจะมีความสุขนะ"

"หึๆ ใช่ว่าเจ้าจะไม่ได้ประโยชน์ด้วย เจ้าได้กำจัดเสี้ยนหนามในกลุ่มหมาป่าของเจ้า ได้ล้างแค้นไอ้หมูโสโครกทั้ง 3 ตัว แถมได้ตัวผู้เฒ่าแกะ และกำจัดเจ้านายพรานเด็กเลี้ยงแกะไปอีก ข้าว่า เจ้าน่าจะได้กำไรมากกว่าข้าละมั้ง" ราชินีหมวกแดงยิ้มกริ่ม สายตาเยิ้มด้วยฤทธิ์ไวน์ชั้นดี

"เจ้าหมาน้อยเอ๊ย ข้ามีข้อเสนอให้กับพวกเจ้า" นางหัวเราะชอบใจ เมื่อจ้าวหมาป่าเข้ามาก้มหัวคลอเคลีย
*************
ในวันเฉลิมฉลองเมือง สิ่งที่สร้างความแปลกใจให้กับทหารและชาวเมืองทุกคนคือ หมาป่าร่างใหญ่นั่งหมอบอย่างสงบข้างๆ บัลลังค์พระราชินี ขนเลื่อมเป็นเงามันทั้งสวยและน่าเกรงขาม ยิ่งรวมกับรอยแผลเป็นบนใบหน้านั้นแล้ว ทำให้เสริมบารมีของราชินีหมวกแดงเป็นยิ่งนัก และแล้วนางก็ได้ปกครองบ้านเมืองอย่างมีความสุขสืบต่อไป
*************

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า:
1) นิทานก็คือนิทาน อ่านแล้วอย่าคิดมาก
2) อ่านอีสปไม่ครบ 3 จบ อย่าเพิ่งไปคบให้ดูข่าววิเคราะห์ และข่าวหนังสือพิมพ์เพิ่มเิติมด้วย

No comments:

Post a Comment